มินิ (Mini)เตรียมทวงบัลลังก์รถยนต์ขนาดเล็กคืน

0
3450

ถ้าพูดถึงรถยนต์ขนาดเล็กในระดับหรูหราและมีความคลาสสิคทุกคนจะนึกถึงรถยนต์จากค่ายมินิเป็นค่ายแรก ๆแต่ในช่วงหลังมานี้รถยนต์จากค่ายมินิ ไม่ค่อยจะมีรถยนต์ขนาดเล็กออกมาซักเท่าไร ทำให้ตลาดรถยนต์ขนาดเล็กตกไปอยู่ในมือของค่ายรถยนต์สมาร์ท (Smart)ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ในเครือของเบนซ์หรือชื่อในวงการก็คือค่ายเดมเลอร์ (Daimler) นั่นเอง

dda

จากสาเหตุดังกล่าวทำให้รถยนต์สมาร์ทเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ไม่มีคู่แข่งทางการตลาด แต่ค่ายรถยนต์มินิซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ในเครือของบีเอ็มดับเบิลยู(BMW) ได้ออกมาประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กให้ได้ ด้วยการทำสัญญาร่วมมือกับทางโตโยต้าค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบ ให้ร่วมกันพัฒนารถยนต์ขนาดเล็กที่มีชื่อว่า มินิ ไมเนอร์ (Mini Minor) ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ก็มีความเคลื่อนไหวและข่าวคราวออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดข่าวก็ออกมาว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ (Geneva Motor Show 2015) ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้

คลิปรถยนต์สมาร์ท ฟอร์โฟร์ (Smart ForFour)

มินิ ไมเนอร์ (Mini Minor) คันนี้ได้มีการพัฒนาทุกอย่างใหม่หมด ตั้งแต่โครงสร้างของรถยนต์ที่จะต้องมีขนาดเล็กกระทัดรัดในการใช้งาน โดยโครงสร้างรถยนต์ขนาดเล็กที่ร่วมมือกับทางโตโยต้าพัฒนาขึ้นมานั้นจะมีความยาวไม่เกิน 3.45 เมตร เพื่อให้สู้กับรถยนต์ขนาดเล็กของค่ายคู่แข่งได้ที่มีรถยนต์ สมาร์ท ฟอร์โฟร์ (Smart ForFour)ที่มีความยาวเพียง2.69 เมตร กว้าง 1.66 เมตร สูง 1.55 เมตร และฐานล้อยาว 1,873 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นรถยนต์ที่เล็กมาก สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของดีไซน์ที่จะต้องโดนใจลูกค้าด้วย รถยนต์ มินิ ไมเนอร์ (Mini Minor) ได้พัฒนาดีไซน์มาจากมินิ ร็อกเก็ตแมน (Mini Rocketman) ที่เป็นรถยนต์ 5 ประตูขนาดเล็ก  โดยโครงสร้างขนาดเล็กที่พัฒนากับทางโตโยต้าก็จะเป็นโครงสร้างของรถยนต์ขนาดเล็กของทางโตโยต้ารุ่นใหม่ที่จะมาแทน โตโยต้า ไอคิว (Toyota iQ)เหมือนกัน

https://www.youtube.com/watch?v=OQ_AHhg11y8

คลิปรถยนต์มินิ ไมเนอร์ (Mini Minor)

แม้ว่าพักหลังจะมีข่าวออกมาว่าค่ายมินิ จะหยุดการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กบ้างรุ่นที่ไม่สามารถทำกำไรได้เท่าที่ควรลง แต่สำหรับรถยนต์มินิ ไมเนอร์ (Mini Minor) เหมือนกับเป็นความหวังที่จะทำให้มินิกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยทางมินิเองได้ตั้งราคาของรถยนต์รุ่นนี้ไว้ประมาณ12,500 – 13,500 ยูโร ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ตกอยู่ 460,000 –500,000 บาท จากฐานราคาถือว่าน่าสนใจอย่างมาก และจะเริ่มจำหน่ายอย่างเร็วในปี 2018

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.