ถ้าในวงการรถยนต์แล้วคงไม่มีใครไม่รู้จักค่ายดาวลูไก่จากแดนอุทิศอุทัยอย่างค่ายรถยนต์ ซูบารุ(Subaru) อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าซูบารุจะไม่ใช้รถยนต์ตลาดที่ขายดีเหมือนกับ โตโยต้า หรือว่า ฮอนด้า แต่ซูบารุก็ได้ถูกพูดถึงในเรื่องสมรรถนะที่แข็งแกร่งและทนทานของเครื่องยนต์ที่เปรียบเสมือนได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของทางซูบารุเลย และถือว่าเป็นจุดขายที่ทำให้ซูบารุได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม(Best Engine Awards) มาอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์ที่ทุกคนรู้จักดีเมื่อพูดถึงซูบารุก็คือ เครื่องยนต์ Boxer นั้นเอง
ล่าสุดทาง ซูบารุ ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่ายอดขายของเครื่องยนต์ Boxer นั้นทะลุ 15 ล้านเครื่องไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างมากของค่ายรถยนต์ซูบารุ เครื่องยนต์ Boxer นั้นได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1949 และเครื่องยนต์ Boxerรุ่นแรกของซูบารุคือ ซูบารุ 1000 รุ่นปี 1966 และได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากเครื่องยนต์ลูกสูบนอนแล้ว สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับรถยนต์ซูบารุและถือว่าเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของทางซูบารุก็คือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmestrical All-wheel-drive ที่สามารถทำยอดขายทะลุถึง 14 ล้านคันไปแล้ว และมีการคาดการณ์ว่าอีกไม่นานก็จะทะลุ 15 ล้านคันตามเครื่องยนต์ Boxer อีกไม่นานนี้
เครื่องยนต์ Boxer นั้นมีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้นักแข่งรถยนต์และคนรักรถยนต์ต่างชื่นชอบด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้เครื่องยนต์ Boxer เข้าไปอยู่ในใจของคนรักรถยนต์เลยทีเดียว
credit image : subaru
- เครื่องยนต์บ็อกเซอร์มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Lower the Center of Gravity) เนื่องจากเครื่องยนต์ใช้ลูกสูบในแนวนอนเลยทำให้ขนาดเครื่องเล็กกว่าเครื่องทั่วไปทำให้สามารถวางในห้องเครื่องได้ง่ายกว่าเครื่องยนต์บล๊อกอื่น
- เครื่องยนต์บ็อกเซอร์มีความสมดุลมากกว่า (More Balanced) เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ถูกสร้างมาด้วยความพิถีพิถันด้วยโครงสร้างที่มีความสมมาตรซ้าย-ขวา ซึ่งทำให้สามารถกระจายน้ำหนักได้ลงสู่ล้อซ้าย-ขวาได้อย่างสมดุล ทำให้การบังคับรถยนต์สะดวกสบายยิ่งขึ้น
- เครื่องยนต์บ็อกเซอร์มีแรงสั่นสะเทือนที่น้อยกว่า (More smoothness, Less Vibration) จุดเด่นของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์อีกอย่างก็คือการวางลูกสูบแบบนอนซึ่งส่งผลให้เกิดแรงสั่งสะเทือนน้อยกว่าเครื่องยนต์บล็อกอื่น ๆ
- เครื่องยนต์บ็อกเซอร์มีประสิทธิภาพการส่งกำลังมากกว่าเครื่องยนต์ปกติ (Higher Efficiency of Power Transfer) เป็นเครื่องยนต์ที่ส่งกำลังโดยตรงไปยังชุดเกียร์ งด้วยลูกสูบแบบนอนทำให้สามารถส่งกำลังไปในแบบเป็นเส้นตรงตามแนวแกนรถ
- เครื่องยนต์บ็อกเซอร์มีน้ำหนักน้อยกว่า (Lighter Engine = Easier to turn) ด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กว่าเลยทำให้มีน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ในบล็อกอื่นๆด้วย
- เครื่องยนต์ Boxer มีประสิทธิภาพในการหล่อลื่นขณะสตาร์ทดีกว่าเครื่องยนต์ปกติ (Higher Lubrication Efficiency while Cranking) ซึ่งเครื่องยนต์แบบปกติจะอยู่ในแนวตั้งทำให้ลูกสูบที่ตั้งอยู่ในแนวตั้งนั้นไม่สามารถสัมผัสน้ำมันเครื่องได้ทันทีทำให้ลูกสูบมีการเสียดสีกับตัวเครื่องเป็นผลให้เกิดอาการสตาร์ทติดที่ยากกว่าแบบลูกสูบนอนที่ได้สัมผัสน้ำมันเครื่องอยู่ตลอดแม้จะเป็นบ้างส่วนของลูกสูบก็ตามก็ยังส่งผลให้เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ง่ายกว่าด้วยเช่นกัน
- เครื่องยนต์ Boxer ช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับห้องโดยสารในกรณีที่เกิดการชนด้านหน้า (Reduce damage of passenger cabin in case of frontal collision) จุดเด่นข้อนี้ถ้าไม่สังเกตดี ๆอาจจะไม่ทราบก็ได้ สืบเนื่องจากการวางเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่าและระบบส่งกำลังในแนวตังไปยังชุดเกียร์และเพลาส่งกำลังทำให้เวลาเกิดอุบัติเหตุด้านหน้ารถยนต์เครื่องยนต์จะเป็นสิ่งแรงที่รับแรงกระแทก เมื่อเครื่องยนต์ได้รับแรงกระแทกก็จะส่งผลให้เพลากลางหักทำให้แรงกระแทกไม่ส่งผลกับโครงสร้างของรถยนต์มากนักนั้นเอง
แค่ข้อดีของเครื่องยนต์ Boxer อาจจะทำให้หลายคนที่คิดจะเล่นรถยนต์อาจจะหันกลับมามองหาเครื่องยนต์ Boxer ไปใส่ไว้ในห้องเครื่องเพื่อเป็นขุมพลังให้กับรถยนต์ของคุณก็เป็นไปได้ นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เครื่องยนต์ Boxer มียอดขายทะลุ 15 ล้านเครื่องอย่างแน่นอน




