รถยนต์หนึ่งคันจะต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ควรที่จะมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงรถยนต์ไว้ด้วย เพราะรถยนต์จะมีค่าสึกหรอในการเดินทางเสมอ ถ้าเรารู้จักดูแลส่วนต่าง ๆได้จะช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกเยอะ
ล้อรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องมีการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าล้อยางเป็นส่วนที่รับภาระหนักที่สุดของรถยนต์ที่ต้องแบกภาระเรื่องน้ำหนักของรถยนต์ และการเสียดสีระหว่างพื้นถนน ซึ่งล้อยางนั้นเป็นส่วนสำคัญมากในเรื่องของความปลอดภัย ล้อยางเป็นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนเราควรที่จะมั่นตรวจเช็คสภาพของล้อยางอย่างสม่ำเสมอ
Credit image : beefiles
การสึกหรอของล้อยางนั้น จะขึ้นอยู่กับตัวเครื่องและโครงสร้างของรถยนต์นั้น ๆ อาทิ ถ้าเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนสองล้อหน้า ล้อยางด้านหน้าก็จะสึกล้อมากกว่าล้อยางด้านหลัง ในทางกลับกันถ้าเป็นขับเคลื่อนล้อหลังล้อยางด้านหลังก็จะสึกหรอมากกว่าล้อยางด้านหน้า แต่ถ้าเป็นเครื่องที่ขับเคลื่อน 4 ล้อก็จะมีการสึกหรอที่เท่าๆกัน
ส่วนมากแล้วถ้าเป็นรถยนต์นั่ง 4 ประตูหรือว่ารถเก๋ง จะเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนล้อหน้าทำให้ล้อยางด้านหน้าจะสึกมากกว่าล้อหลัง การสลับยางเองนั้นเราต้องมีการเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมเสียก่อน โดยอุปกรณ์พื้นฐานที่จะต้องมีคือ
- ขาค้ำหรือขาตั้งยกรถ (Jack Stand) 4 ตัว ไว้ค้ำล้อทั้งสี่ข้างให้สูงขึ้น
- ประแจหัวหกเหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยม ซึ่งขนาดของประแจที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับนอตของล้อรถยนต์
- แม่แรง ไว้สำหรับยกรถขึ้นเพื่อว่างขาค้ำและไว้สำหรับยกรถลงเมื่อเปลี่ยนล้อยางเสร็จแล้ว
โดยสูตรในการสลับล้อยางนั้นเราจะมีอยู่ 2 สูตรด้วยกันคือ
- 2 ล้อหน้าสลับมาด้านหลัง ส่วนล้อหลัง 2 ล้อก็ไขว้สลับซ้ายขวาขึ้นไปด้านหน้า
- สลับล้อหน้ากับล้อหลังไขว้กันเป็นรูปตัวเอ็กซ์
ขั้นตอนในการสลับล้อยางเองนั้นไม่ยากเลย
- ยกรถยนต์ด้วยแม่แรงขึ้นเหนือพื้นพอที่จะเอาขาค้ำสอดเข้าไปค้ำได้ ตำแหน่งที่ค้ำควรที่จะเป็นตำแหน่งของ คัสซีรถเพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุด
- เมื่อค้ำทั้ง 4 ล้อขึ้นแล้วก็ทำการขันน็อตออกให้หมดทั้ง 4 ล้อพร้อมกับสลับยางตามสูตรที่วางแผนไว้
- เมื่อสลับยางเสร็จแล้วเราก็ขันน็อตทั้งสี่ล้อไม่ต้องแน่นมากพออยู่ แล้วเอาแม่แรงยกค้ำรถยนต์ไว้เพื่อเราขาค้ำทั้ง 4 ล้อออก
- หลังจากเอารถยนต์ลงจากขาค้ำแล้วเราค่อยมาขันน็อตทั้ง 4 ล้อให้แน่นขึ้นอีกเพื่อความปลอดภัย
เพียงเท่านี้การสลับล้อยางก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราควรมั่นเช็คยางทุก ๆ10,000 กิโลเมตร หรือสังเกตที่ดอกยางว่ามีการสึกหรอมากน้อยเท่าใด แต่ถึงกระนั้นในการสลับล้อยางแต่ละครั้งเราต้องสังเกตด้วยเมื่อนำไปขับขี่ ถ้ามีอาการผิดปกติก็ควรนำรถยนต์ไปตั้งศูนย์อีกครั้ง เพียงเท่านี้เราก็สามารถประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้แล้ว
