หลังจากที่ Toyota C-HR น้องใหม่ในกลุ่มรถยนต์เอนกประสงค์ประเภท Hatchback CrossOver ได้เปิดตัว ทำให้ได้มีผู้คนสนใจแล้วกวาดยอดจองและซื้อในตลาดรถกลุ่มนี้ไปอย่างมากมาย จนหลายค่ายที่เป็นคู่แข่งร่วมต่างนิ่งนอนใจไม่ได้ ทางฮอนด้าเองก็เช่นกัน ได้เตรียมที่จะส่ง Honda HR-V รุ่นปรับโฉมใหม่ออกมาเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด และทวงคืนยอดขายเบอร์ 1 ในกลุ่มรถ เอนกประสงค์คลอสโอเวอร์
การมาของ New Honda HR-V นั้นคาดว่าจะมาก่อนสิ้นปี 2018 นี้้อย่างแน่นอนเพราะช้ากว่านี้อาจจะเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในรถกลุ่มนี้ไปเยอะ เห็นว่า ฮอนด้า เอชอาร์-วี โฉมใหม่จะอิงดีไซน์จากรุ่น Vezel ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ทีปรับเพิ่มความเท่ในส่วนของกระจังหน้าดีไซน์ปีกนกแนวยาวทอดรับกับโครมไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมแผงช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ไฟตัดหมอกทรง 5 เหลี่ยมแบบ LED สวยทุกมุมมองด้วยกล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านรมดำ ขนาด 17 นิ้ว กับยาง 215/55R17 และ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50R18 ส่วนการออกแบบด้านท้ายรถยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะของเดิมก็ดูดีอยู่แล้ว จะมีเพียงแต่เพิ่มความเท่ด้วยขอบป้ายทะเบียนโครเมียม และไฟท้ายเปลี่ยนเป็น LED
ส่วนภายในยงคงเดิมแต่อาจจะบางส่วนที่ปรับเปลี่ยนคือถ้าอิงจากรุ่นที่จำหน่ายที่ญี่ปุ่น มาตรวัดเรืองแสงจตะเป็นแบบใหม่ และโครงเบาะนั่งคู่หน้าออกแบบใหม่ให้กระชับกับสรีระมากขึ้น ช่วยให้นั่งสบายขึ้นเวลาเดินทางไกล อีกทั้งยังเพิ่มวัสดุที่ช่วยเก็บเสียงจากภายนอกได้ดีขึ้น ด้านความบันเทิงยังซัพพอร์ทการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้งระบบ iOS และ Andriod คือ Apply CarPlay และ Android Auto สะดวกในการเดินทางด้วยระบบนำทางที่สมบูรณ์แบบ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบปุ่มสตาร์ทรถยนต์ Push Star
ด้านเครื่องยนต์ยังคงใช่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC ขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ผสานงานร่วมกับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85
อีกสิิ่งหนึ่งสำคัญที่เป็นปัจจัยทำให้ผู้ใช้รถตัดสินใจเลือกซื้อในรถยนต์ทุกวันนี้คือ ระบบความปลอดภัย ทางฮอนด้าเองก็ได้เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ และได้มีการเพิ่ม ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนและช่วบเบรกในช่วงความเร็วต่ำ และระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่่อกุญแจอยู่ห่างจากตัวรถในระยะที่กำหนด ส่วนระบบเดิมที่มีอยู่นั่นก็ยังคงมีอยู่เช่น ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน ESS, กล่องส่องภาพด้านหลัง สามารถปรับมุมมองได้ 3 ระดับ, ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 ตำแหน่ง เป็นต้น
สำหรับคนที่รอรุ่นนี้อยู่ มีข่าวแว่วๆว่า จะมาในช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคมนี้ ถ้ามีข้อมูลอัพเดตเพิ่มเติมเราจะนำมาแจ้งให้ทราบ
