แม้ในปัจจุบัน ราคาน้ำมันจะลดลงค่อนข้างมากแล้ว จนหลายๆ คนไม่ต้องคอยวิตกกังวลถึงราคาน้ำมันอีกต่อไป แต่ก็ไม่มีหลักประกันนะครับ ว่าราคาน้ำมันจะวนเวียนอยู่แค่นี้ไปตลอด และมากกว่านั้น การที่ราคาน้ำมันลดลงฮวบฮาบ ก็ทำให้ใครหลายคนใช้รถกันอย่างสนุกสนาน จนเผลอๆ ต้องเข้าปั๊มเติมน้ำมันบ่อยกว่าแต่ก่อน สรุปว่าเสียค่าน้ำมันมากกว่าสมัยที่น้ำมันแพงเสียอีกแน่ะ
การขับรถอย่างไรไม่ให้เปลืองน้ำมัน จึงยังเป็นศิลปะที่ควรรู้และปฏิบัติอยู่นะครับ ไม่เกี่ยวว่าราคาน้ำมันจะลดลงมาแค่ไหน เพราะแม้น้ำมันจะลดลง แต่ถ้าเราขับขี่อย่างประหยัด นั่นก็หมายความว่า เราจะยิ่งประหยัดค่าน้ำมันในแต่ละเดือนยิ่งขึ้นไปอีก จริงไหมครับ
ว่าแล้วเราก็มาลองดูกันหน่อยดีกว่าว่า เราจะขับขี่รถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องแวะปั๊มบ่อยๆ ให้เงินในกระเป๋าเราตุงขึ้นๆ เชื่อว่าหลายคนทราบกันอยู่แล้ว แต่ลองมาทบทวนกันลืมกันดีกว่าครับ
1.ออกตัวอย่างสุภาพ เพราะถนนในเมืองกรุงไม่ใช่สนามแข่งรถครับ การออกตัวด้วยการเหยียบคันเร่งมิด ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก นอกจากสูญเสียน้ำมันไปโดยใช่เหตุ และทำให้เครื่องสึกเร็วขึ้น ถ้าไม่ได้รีบร้อนอะไร การออกตัวด้วยการแตะคันเร่งแผ่วๆ ให้รอบขึ้นไม่เกิน 2,000 รอบต่อวินาที ถือเป็นจังหวะการออกตัวที่ดีและช่วยประหยัดน้ำมันได้ไม่น้อยทีเดียว
2.ใช้แรงเฉื่อยให้เป็นประโยชน์ ในจังหวะที่รถติดไฟแดงแบบขยับได้ทีละนิดๆ การเร่งๆ เบรคๆ รังแต่จะทำให้เสียน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์นะครับ ในจังหวะอย่างนี้ใช้แค่การปล่อยเบรก ให้รถไหลไปด้วยแรงเฉื่อยก็เพียงพอแล้ว
3.ใช้ความเร็วอย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่ขับรถทางไกล การขับแบบเหยียบๆ ปล่อยๆ จะทำให้รถกินน้ำมันอย่างมากครับ รูปแบบที่ดีที่สุดคือ ใช้ความเร็วให้ได้รอบของรถ แล้วรักษาความเร็วไว้ในระดับนั้นยาวๆ ไป เช่น ขับ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็รักษารอบให้อยู่ในเกณฑ์นี้ไปยาวๆ จะประหยัดน้ำมันกว่าการเร่งจนรอบสูง 150-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วปล่อยให้รอบตก แล้วเหยียบเร่งใหม่ อย่างนั้นเปลืองน้ำมันสุดๆ ครับ
4.มองให้ไกลทะลุคันหน้า จังหวะการเร่งคันเร่งและเบรกของเรา ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากครับว่าเราจะประหยัดน้ำมันรถได้แค่ไหน การขับรถในเมืองที่มีไฟแดงถี่ๆ รัวๆ นั้น เราไม่ควรมองและยึดรถคันหน้าเราเป็นหลักแต่อย่างเดียวครับ แต่ควรมองทะลุไปถึงคันที่อยู่ข้างหน้าขึ้นไปอีก เพราะหากเรายึดแต่คันหน้า แล้วคันหน้าขับแบบเร่งๆ หยุดๆ เราก็ต้องพลอยเร่งๆ หยุดๆ ไปกับเขาด้วย การมองให้ไกลทะลุไปถึงคันหน้ากว่า จะทำให้เราคาดการณ์ถึงจังหวะการใช้ความเร็วและหยุดรถได้โดยไม่ต้องเร่งไปตามคันหน้าเราแต่อย่างเดียว แต่กระนั้น ก็อย่ามัวแต่มองไกลไปรถ 2-3 คันหน้า จนลืมมองรถคันหน้าเราจริงๆ นะครับ เดี๋ยวอุบัติเหตุจะถามหาได้
5.วางแผนก่อนเดินทาง ข้อนี้คลาสสิคครับ การวางแผนก่อนจะออกรถว่าเราจะใช้เส้นทางไหนที่ใกล้ที่สุด หรือเส้นทางเลี่ยงเส้นไหนที่ช่วยให้เราเลี่ยงรถติดได้ จะช่วยให้เราสามารถประหยัดน้ำมันได้มากทีเดียว แม้คุณจะขับขี่ตาม 4 ข้อข้างต้นอย่างเคร่งครัด แต่ถ้าต้องเสียเวลาอ้อมโลกหรือติดแหง็กอยู่กับที่เป็นชั่วโมงๆ ก็เปลืองน้ำมันอยู่ดีนะครับ
และนี่ก็คือ 5 ข้อเบสิคสำหรับการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน แต่ไม่ใช่ 5 ข้อสุดท้ายท้ายสุดนะครับ เพราะวิธีการประหยัดน้ำมันนั้นมีมากมายหลายร้อยวิธี ทั้งที่เกี่ยวกับวิธีการขับและวิธีการบำรุงรักษารถ ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าต่อถึงวิธีการอื่นๆ อีกนะครับ รับรองว่าถ้าปฏิบัติได้ตามนี้ สัปดาห์หนึ่งคุณจะแทบไม่ต้องแวะเข้าปั๊มเลย





