ในการขับขี่รถยนต์สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความปลอดภัย ซึ่งค่ายรถยนต์ทุกค่ายต่างก็พยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยขึ้นมาอยู่เสมอ แต่ทาง Honda กลับต้องเจอปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ช่วยในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งปัญหาที่ตรวจพบก็คือถุงลมนิรภัย Takata ทำให้ทางฮอนด้าเองต้องจำใจเรียกรถยนต์ที่มีปัญหาทั่วโลกคืนเพื่อมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดีขึ้น โดยรถยนต์ที่โดนเรียกคืนมานั้นนับล้านคันเลยทีเดียว
Credit image : takata
โดยวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมาทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้ให้ข่าวว่า ทางฮอนด้าเองอาจจะตัดสินใจเลิกใช้งานถุงลมนิรภัยจากบริษัททาคาตะ (Takata) แล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้ทาง Honda เองได้ใช้ถุงลมนิรภัยจากบริษัททาคาตะ (Takata) มาแล้วหลายรุ่น โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นฮอนด้า แอคคอร์ด (Honda Accord) ที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับถุงลมนิรภัยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลักของทางฮอนด้า ด้วยเหตุนี้เองทางฮอนด้าได้พยายามแก้ไขปรับปรุงปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยด้วยการเปลี่ยนผู้ผลิตถุงลมนิรภัยเจ้าใหม่
Credit image : takata
จากประวัติที่ทาง Honda ได้เก็บรวบรวมสถิติเกี่ยวกับถุงลมนิรภัย Takata ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้โดยสารและผู้ขับขี่ภายในรถยนต์ให้ปลอดภัย แต่ส่วนมากจะมีปัญหาที่เกี่ยวกับถุงลมนิรภัย Takata อยู่ตลอด และทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บจนเป็นเรื่องฟ้องร้องกันมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ทางฮอนด้าเองต้องเรียกคืนรถยนต์ที่ใช้ถุงลมนิรภัยจากบริษัททาคาตะ (Takata)
Credit image : takata
โดยทางฮอนด้าอาจจะหันไปใช้ถุงลมนิรภัยของโตโยดะ โกเซ (Toyoda Gosei) โดยเริ่มจากรถยนต์รุ่น Honda CR-V รุ่นปี 2016 และHonda Odyssey รุ่นปี 2016 ถ้าข่าวที่ทางรอยเตอร์เผยออกมาเป็นความจริงก็ถือว่าทาง Honda พยายามเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ได้ยินข่าวในความไม่ปลอดภัยของถุงลมนิรภัย Takata แต่ในทางกลับกันทางด้านบริษัท Takata เองอาจจะเสียผลประโยชน์มหาศาลเพราะว่ายอดขายรถยนต์รุ่น Honda Accord และ Honda CR-V ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ถุงลมนิรภัยของ Takata เป็นรถยนต์ 2 รุ่นที่มียอดขายเกินครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ของ Honda
ถ้าฮอนด้าเองเปลี่ยนไปใช้ถุงลมนิรภัยที่มาจากบริษัทโตโยดะ โกเซ (Toyoda Gosei) จริง ๆ ทางบริษัท Takata ถือว่าเสียโอกาสทางด้านการตลาดในประเทศหลาย ๆประเทศเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นข่าวที่ทางรอยเตอร์ได้เผยแพร่ออกมานี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันจากบริษัททั้ง 3 บริษัทที่เป็นข่าวนี้เลย