การเป็นเจ้าของรถแต่ละคัน เจ้าของรถต้องระลึกเอาไว้เสมอว่าไม่ได้ไม่ได้มีเพียงราคาซื้อขายรถยนต์ หรือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์รถโดยตรง รวมถึงข้อบังคับทางกฎหมายไม่ว่าจะเป็น ราคา พรบ รถยนต์ ภาษี ค่าตรวจสอบสภาพรถยนต์ในกรณีที่รถยนต์มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความพึงพอใจ อาทิเช่น ประกันรถชั้น 1 ที่ไหนดี หรือพิจารณาเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 3 แทน เป็นต้น เหล่านี้คือค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถจะต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อรถมาใช้
อย่างก็ดีเจ้าของรถบางคนก็ยังสงสัยว่าในการ ต่อพรบ แต่ละครั้งนั้นมีความจำเป็นต่อรถยนต์ของคุณอย่างไร ทั้งยังส่งผลต่อค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันหรือไม่ การเลือก ประกันรถยนต์ที่ไหนดี จะส่งผลต่อราคาค่าใช้จ่ายในส่วนนี้หรือไม่ จึงขอชี้แจงว่า พรบ รถยนต์ คือความรับผิดชอบของเจ้าของรถยนต์ทุกๆคน ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติความคุมการจราจรทางบกที่กรมขนส่งทางบกเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลและรับผิดชอบ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐนำมาใช้ชดเชยในกรณีที่รถประสบอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองทั้งในส่วนของคู่กรณี ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทุก ๆ คน ซึ่งเป็นความคุ้มครองต่อชีวิตและร่างกายเท่านั้น ไม่รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินต่าง ๆ ภายในและภายนอกรถ และให้ความคุ้มครองเฉพาะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น เจ้าของรถยนต์หลายคันจึงยินยอมเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายด้วยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติมนั่นเอง อย่างไรก็ตามการเลือก ต่อพรบ กับกรมขนส่งทางบกโดยตรง หรือผู้ให้บริการเอกชนแต่ละแห่งนั้นจะไม่ส่งผลต่อ ราคา พรบ รถยนต์ แต่อย่างใด แต่ราคาของ พรบ รถยนต์ จะขึ้นกับรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ประเภทของรถยนต์ รถยนต์แต่ละขนาด และจำนวนผู้โดยสาร จะมีค่าใช้จ่ายของ พรบ รถยนต์ ที่แตกต่างกัน โดยในกรณี พรบ ของรถเก๋งจะมีค่าใช้จ่ายที่ 645.21 บาท ส่วนกรณีของรถกระบะ ราคา พรบ รถยนต์ จะอยู่ที่ 967.28 บาท ส่วนกรณีรถตู้ที่มีที่นั่งโดยสารไม่เกิน 15 ที่นั่ง จะมีราคาของ พรบ อยู่ที่ 1,35 บาท ซึ่งเจ้าของรถสามารถเลือกเดินทางไปชำระด้วยตนเองที่กรมขนส่ง หรือใช้บริการกับภาคเอกชนที่ให้บริการได้เลย เพราะการเลือก ประกันรถยนต์ที่ไหนดี ในส่วนของประกันรถยนต์ภาคบังคับอย่าง พรบ นั้น ไม่ว่าที่ใดก็มีราคาของ พรบ ที่ต้องจ่ายเท่า ๆ กัน แต่บางแห่งก็อาจมีการคิดค่าบริการการเดินเอกสารเพิ่มเติมได้ ซึ่งก็มักอยู่ในอัตราที่ 100 – 200 บาท
- การชำระเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เนื่องจาก พรบ รถยนต์ คือข้อบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถจะต้องดำเนินการในทุก ๆ ปี และมีผลต่อการนำไปประกอบการจ่ายภาษีรถยนต์ในแต่ละปีด้วย ดังนั้นหากเจ้าของรถไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น ก็จะมีค่าปรับในส่วนของภาษีรถยนต์เพิ่มเติมมาได้ โดยคิดอัตราเปรียบเทียบปรับในส่วนของภาษีรถยนต์เพิ่มเติม ซึ่งก็คือในอัตรา 1% ทุก ๆ 1 เดือนนั่นเอง ดังนั้นหากยิ่งชำระค่าใช้จ่ายของ พรบ รถยนต์ช้า ก็จะเกิดค่าใช้จ่ายของภาษีรถยนต์ที่บานปลายตามระยะเวลาที่นานขึ้นเรื่อย ๆ นั้นได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของค่าใช้จ่ายของ พรบ รถยนต์ นั้นไม่มีค่าปรับใด ๆ เพิ่มเติมทั้งสิ้น แต่หากเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรของตรวจค้นเอกสารประจำรถแล้วพบว่า พรบ รถยนต์ หมดอายุก็จะมีโอกาสที่ต้องจ่ายค่าปรับได้
- กรณีรถยนต์ป้ายแดงมีค่าใช้จ่ายของ พรบ หรือไม่ ในกรณีของรถป้ายแดงนั้น ถือเป็นรถที่ยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนกับทางกรมขนส่ง จึงยังไม่ได้รับความคุ้มครองในส่วนของ พรบ รถยนต์ เจ้าของรถยนต์จึงควรทำประกันชั้น 1 เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมรอบด้าน และมีวงเงินคุ้มครองที่สูงกว่าการเลือกทำประกันรูปแบบอื่น ๆ เป็นการช่วยสร้างความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดี
- การต่อ พรบ รูปแบบใหม่ ในปัจจุบันทางกรมขนส่ง และตัวแทนผู้ให้บริการของเอกชนได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการ ต่อพรบ ใหม่แล้ว ด้วยการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ ที่มีความสะดวกรวดเร็วมากกว่าเดิม เพราะเจ้าของรถไม่จำเป็นต้องเดินทางไปหาตัวแทนหรือกรมขนส่งฯ ให้เสียเวลา แต่สามารถต่อเอกสาร พรบ ได้เลยที่บ้าน และยังสามารถเลือกทำธุรกรรมได้ตลอดเวลาที่สะดวกอีกด้วย ช่วยให้เจ้าของรถสามารถประหยัดได้ทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งอาจพิจารณาดำเนินการไปพร้อม ๆ กับการ ประกันรถชั้น 1 ที่ไหนดี ด้วยกันเลย
กรณีเรียกค่าสินไหมทดแทนมีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ในกรณีที่เจ้าของรถต้องการยื่นเรื่องเพื่อขอเงินชดเชยจาก พรบ ก็สามารถติดต่อกับตัวแทนหรือกรมขนส่งโดยตรงได้เลย แต่ต้องเตรียมเอกสารในการขอรับสินไหมให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นเอกสารสัญญา ใบแจ้งความหรือใบบันทึกประจำวัน ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารใบยื่นคำร้อง บด.3 ที่เจ้าของรถสามารถหาดาวน์โหลดได้จากเว็บไซด์ของกรมขนส่ง
การทำ พรบ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับตามที่กฎหมายได้กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบมา การเลือกทำ ประกันรถยนต์ที่ไหนดี ก็อาจขึ้นกับความสะดวกของเจ้าของรถเอง และเพื่อความคุ้มครองที่มากกว่าก็ควรพิจารณาไปพร้อม ๆ กับการทำ ประกันรถชั้น 1 ที่ไหนดี ด้วย เพื่อความคุ้มครองรอบด้านทั้งต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินต่าง ๆ อย่างเช่น DirectAsia ที่ให้ความสะดวกอย่างมากในเรื่องการเช็คเบี้ยประกันที่รวดเร็ว เพียงโทร 02 821 5791 ก็มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ข้อมูลหรือดูข้อมูลที่เว็บไซต์ https://www.directasia.co.th