ยังไงซะ Honda นี่ก็จัดว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่มาแรงในทุกๆปีอยู่แล้ว ในแต่ละปี ไม่ว่าจะรถยนต์รุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าที่ตกรุ่นไปบ้าง แต่ก็ยังมีความนิยมหลงเหลืออยู่ และยังพอที่จะมีสายการผลิตที่ยังมีประกอบจากโรงงานส่งตรงถึงโชว์รูมอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ทว่าข่าวนี้อาจจะไม่ใช่ข่าวที่น่ายินดีมากสักเท่าไหร่สำหรับคนที่ติดตาม Honda ตระกูล Honda Civic รุ่น Type R นั่นเอง โดยตอนนี้มีข่าวที่ประกาศออกมาแล้วด้วยว่าทางค่ายนั้นจะยุติการผลิต Type R รุ่นปัจจุบันเลยนั่นเอง ไม่ทราบว่าเป็นจริงอย่างไรนั้นก็ต้องไปติดตามกัน
สำหรับ Honda CIVIC Type R รุ่นปัจจุบันนั้นตาม Spec ของตัวเครื่องยนต์ก็ยังถือว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบเครื่องยนต์ชนิดที่เป็นมาตรฐานอยู่เช่นกัน ไล่ตั้งแต่ที่เป็นการใช้เครื่องยนต์เบนซินชนิดขนาด 4 สูบ แถวเรียง 2.0 ลิตร VTEC Turbo แน่นอนว่าด้วยระบบของเครื่องยนต์ระดับนี้มันก็ทำให้ตัวแรงขับเคลื่อนมีกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 310 แรงม้า ที่ 6,500 rpm กันเลยทีเดียว และนอกจากนี้นั้นยังมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 40.8 กิโลเมตร ที่ 2,500 rpm ซึ่งสามารถทำความเร็วในเวลา 0-100 km ด้วยการเร่งเครื่องเพียงแค่ 5.7 วินาทีเท่านั้น และสถิติสูงสุดในการทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 270 km/h ด้วยกัน
จากข้อมูลการทดสอบระบบของเครื่องยนต์ที่บันทึกเอาไว้นั้น ระบุว่าในเดือนพฤษภาคม 2015 หรือเมื่อเกือบราวๆ 2 ปีที่แล้วนั้น Type R ถูกเทสต์ในลักษณะของการแข่งขันแบบ Time Attack เพื่อเป็นการวัดสถิติความเร็วเท่าที่รถยนต์รุ่นนี้สามารถทำได้นั่นเอง โดยมันถูกนำไปทดสอบที่สนามแข่งรถยนต์ทางเรียบ Nürburgring North Course ประเทศ Germany และแน่นอนว่า Type R สามารถสร้างสถิติใหม่ที่น่าทึ่งได้ในที่สุด ด้วยการทำเวลาได้ดีที่สุดถึง 7 นาที 50.63 วินาที และแน่นอนว่าด้วยสถิติที่วัดได้ในเวลานี้จึงสามารถยกให้เป็น Best Record ของมัน และอยู่ในกลุ่มของ Best Record ในกลุ่มรถยนต์ประเภทขับเคลื่อนล้อหน้าอีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่าขนาดรถยนต์ทำเวลาในการวิ่งได้ดีขนาดนี้ ในตลาดญี่ปุ่นยังอุตส่าห์ผลิตมันออกมาเพียงแค่ 750 คันเท่านั้นเอง
แต่ถึงอย่างไรก็มีข่าวที่น่าเสียดายสำหรับกลุ่มนักเลงรถยนต์ที่ใฝ่ฝันกันมานานว่าอยากที่จะได้มีโอกาสขับเจ้า Type R นี้กันดูสักหนหนึ่ง โดยตามรายงานได้ระบุว่าตอนนี้ทางโรงงานผลิตรถยนต์ สวินดัน ประเทศอังกฤษ ทางดซนยุโรปได้สั่งทางทีมวิศวกรและช่างเครื่องทำการหยุดสายงานการผลิตสำหรับ CIVIC Type R รุ่นปัจจุบันไปซะแล้ว และแน่นอนว่ารุ่นสุดท้ายที่ผลิตออกมาแค่ 100 คันนั้นจะเป็นแบบ Black Edition สีสวยหรูอีกด้วย และเป็นการปิดตลาดรถรุ่นนี้โดยสมบูรณ์
