เมืองไทยเวลานี้ชุ่มฉ่ำเจิ่งนองเหลือเกินนะครับ โดยเฉพาะวันสองวันมานี้กรุงเทพฯ ถนนเจิ่งนองเป็นพิเศษเพราะฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำเอาถนนหลายๆ เส้นแทบกลายเป็นอัมพาต เพราะมีน้ำท่วมขังอย่างหนัก (แม้ผู้ว่าฯ จะบอกว่า ไม่ใช่น้ำท่วม แต่เป็นน้ำขังรอการระบายเฉยๆ ก็ตาม 555)
เวลา เจอน้ำท่วม เอ๊ย! น้ำขังรอการระบาย บางทีมันก็เลี่ยงไม่ได้นะครับ โดยเฉพาะเวลาขับไปเจอน้ำขังซึ่งๆ หน้า จะถอยก็ไม่ทันแล้ว ต้องลุยสถานเดียว ว่าแล้ววันนี้เราก็เลยมีเทคนิคการขับรถลุยน้ำอย่างไรให้ปลอดภัยต่อเครื่อง และรถมาฝากกัน มีขั้นตอนอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าครับ
1.ปิดแอร์ เพราะถ้าเปิดแอร์ขณะรับรถลุยน้ำ พัดลมแอร์จะพัดเอาน้ำที่ขังอยู่บนถนนเข้าสู่เครื่องยนต์ ซึ่งจะทำให้เครื่องน็อคได้ครับ
2.ขับ ช้าที่สุด หลายคนมีความเข้าใจผิดๆ ว่า เวลาลุยน้ำสูงต้องรีบเร่งเครื่องผ่านไปเร็วๆ แต่จริงๆ ไม่ถูกครับ เพราะยิ่งเร่งเครื่อง เครื่องก็จะยิ่งมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงาน และคลื่นน้ำที่เกิดจากการที่เราเร่งเครื่องขับผ่านไป ก็อาจจะทะลักมาเข้าห้องเครื่องได้ นั่นแหละครับที่จะทำให้เครื่องน็อค ทางที่ดีที่สุดสำหรับการขับลุยน้ำ คือ การใช้เกียร์ต่ำ หรือใช้ความเร็วให้น้อยที่สุด เพื่อให้เกิดคลื่นน้อยที่สุดครับ
3.อย่า ดับเครื่องทันที เมื่อขับรถลุยน้ำมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อย่าเพิ่งดับเครื่องทันทีนะครับ แต่ควรจอดติดเครื่องทิ้งไว้พักใหญ่ๆ เพื่อให้น้ำที่อาจค้างอยู่ในหม้อพักไอเสียระเหยออกไปให้หมด
4.ย้ำ เบรคไล่น้ำ แน่นอนว่าเมื่อรถเราลุยน้ำขังมา ย่อมต้องมีน้ำเข้าไปในเบรคบ้างไม่มากก็น้อย อย่าปล่อยทิ้งไว้ครับ หลังถึงจุดหมายปลายทาง ขณะที่รอให้น้ำระเหยออกจากหม้อพักไอเสีย เราก็ควรย้ำเบรคไล่น้ำไปพลางๆ โดยถ้าเป็นรถเกียร์ออโต้ ให้เหยียบย้ำเบรคเพื่อไล่น้ำออก ส่วนถ้าเป็นรถเกียร์กระปุก ต้องย้ำที่คลัตช์เพื่อป้องกันคลัชต์ลื่นด้วย
ช่วงนี้ฝนตก บ่อย มากกว่าการขับรถลุยน้ำอย่างถูกวิธีแล้ว ก็อย่าลืมขับขี่อย่างระมัดระวังด้วยนะครับ ด้วยความเป็นห่วงจาก carrecent ครับ