การขายดาวน์รถยนต์คืออะไร?

0
3307

การปล่อยรถยนต์ขายไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็มีหลักการขายที่แตกต่างกัน ส่วนของการขายก็จะมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของเราว่าเราจะมีตัวเลือกมากน้อยแค่ไหน ทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงอย่างรถยนต์หรือบ้าน มักมีขั้นตอนธุรกรรมทางการเงินที่ละเอียดซับซ้อน และการ ขายดาวน์ ก็เป็นอีกวิธีที่ต้องศึกษาให้ดีด้วยครับ

รูปแบบของการขายดาวน์จะสามารถทำได้ต่อเมื่อเรายังผ่อนชำระรถยนต์ไม่ครบงวด แล้วมีความตั้งใจหรือความจำเป็นที่ต้องขายทอดตลาดออกไป เมื่อเรายังติดเงินไฟแนนซ์อยู่แต่จะปล่อยขาย ก็จะมีขั้นตอนมาแนะนำเพื่อความสมเหตุสมผลดังนี้

  1. ตั้งกำหนดราคาขาย

โดยให้เช็คราคาท้องตลาดว่ารถยนต์รุ่นของเรา ปีของเรา สภาพแบบของเราจะขายมือสองได้ในราคาเท่าไหร่ ยกตัวอย่างว่า 300,000 บาทก็แล้วกัน

  1. สอบถามไฟแนนซ์เรื่องยอดค้างชำระ

ให้ติดต่อสอบถามไฟแนนซ์ว่าเรายังมียอดผ่อนเหลือกี่งวด รวมเป็นทั้งหมดกี่บาท สมมุติว่าเหลืออยู่ 100,000 บาทก็แล้วกัน

  1. นำราคาที่จะขายมาลบด้วยยอดค้างชำระ

ให้ราคาที่จะขายมาลบด้วยจำนวนเงินที่ติดไฟแนนซ์อยู่ เพื่อเป็นการรวมยอดว่าจะขายดาวน์เท่าไหร่ จากตัวอย่างข้อ 1 และข้อ 2 คือ 300,000 – 100,000 = 200,000 บาท เท่ากับว่าราคาขายดาวน์รถยนต์มือสองของเราคือ 200,000 บาท

  1. ตรวจสอบผู้ซื้อ

เมื่อได้ราคาสินค้าแล้ว ได้ผู้ซื้อสินค้าแล้ว ก็ควรเช็คด้วยว่าผู้ซื้อมีเงินสดมากจะซื้อดาวน์ของเราต่อหรือไม่ เพราะหากไม่ซื้อด้วยเงินสดแล้ว อาจจะมีโอกาสโดนทุจริตหรือต้มตุ๋นได้ค่อนข้างง่าย

  1. คุยกับไฟแนนซ์ของเรา

เมื่อได้ผู้ซื้อแล้วก็ไปติดต่อกับไฟแนนซ์ด้วยกันกับผู้ซื้อ เพื่อทำงานเปลี่ยนชื่อสัญญาผ่อนชำระให้กับผู้ซื้อคนใหม่ได้ผ่อนชำระต่อไป ในขั้นตอนนี้จะมีค่าเปลี่ยนสัญญา และการจ่ายล่วงหน้าสามเดือนด้วยสำหรับผู้ทำสัญญาผ่อนชำระฉบับใหม่ หลังจากผ่านทุกขั้นตอนก็โอนเงิน โอนรถยนต์ครบ ขายดาวน์เสร็จสิ้น

การขายดาวน์นั้นโดยมากมักจะไม่ได้กำไร เพราะราคาที่ตัดได้จากเงินที่เราจ่ายไปทั้งหมด โดยมากเงินก้อนที่ออกมาจะเป็นเงินดาวน์ก้อนใหญ่ ทำให้ผู้ซื้อรถยนต์ประเภทนี้มักจะคิดหนัก และถ้าเงินก้อนเล็ก ก็ไม่แตกต่างอะไรกับการซื้อรถยนต์มือสองตามปรกติด้วยตัวเอง (โดยไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนสัญญาและล่วงหน้าสามเดือนในขั้นตอนที่ 5 ดังนั้น นอกจากจะขายยากแล้ว ยังไม่ค่อยได้กำไรอีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก http://www.oushidai.com/information/pc/1870

ส่วนมากการเลือกใช้วิธีขายดาวน์นั้นมีไว้สำหรับคนที่ไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้หมด ไม่ไหวจริงๆ หากทิ้งไว้จะกลายเป็นหนี้สินพอกพูน ค่าใช้จ่ายในการดูแลรถยนต์หนึ่งคัน ไม่ว่าจะเป็นบำรุงสภาพ ข้อบังคับตามกฏหมาย ประกันภัยรถยนต์ รวมๆออกมาแล้วมากมายเหลือเกิน การเลือกใช้วิธีขายดาวน์ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ทำให้เป็นวิธีการที่เราไม่แนะนำเลย เพราะจะมีแต่ขาดทุนกับขาดทุนเท่านั้น

แล้วถ้าไม่ขายดาวน์ จะหลีกเลี่ยงหนี้สินอย่างไร?

อ่านกันมาจนถึงตอนนี้ คงจะพอเข้าใจแล้วว่าทางเลือกนี้ มีไว้สำหรับผู้ที่จนตรอกจริงๆ เพราะมีแต่ขาดทุน ใช้ในการหลีกเลี่ยงหนี้สินในกรณีฉุกเฉิน แล้วนอกจากการขายดาวน์แล้ว เราสามารถใช้วิธีการไหนได้บ้าง? หากรถยนต์เป็นปัจจัยหลักในการหารายได้ของคุณ และไม่สามารถปล่อยกรรมสิทธิ์รถยนต์ออกไปได้จริงๆ คุณอาจต้องยอมตัดเนื้อเฉือนกระดูกด้วยวิธีการเหล่านี้แทน

  • สินเชื่อหรือรีไฟแนนซ์ วิธีนี้จะดีที่สุดสำหรับคนที่เสียรถยนต์ไปไม่ได้ แลกเลือกใช้วิธีการใช้ทรัพย์สินอื่นๆเป็นหลักประกันในการกู้เงินจากธนาคาร (เช่นบ้าน, ที่ดิน) แล้วยืดระยะเวลาหนี้สินให้ยาวออกไป เลือกใช้สถาบันทางการเงินที่สามารถผ่อนผันระยะยาวได้ แต่อย่าใช้วิธีการชำระขั้นต่ำ เดี๋ยวจะกลายเป็นการเพิ่มหนี้สินไปซะเปล่าๆ เรายืดระยะผ่อนออกไป แต่หมายถึงเราต้องขยันมากกว่าเดิมนะครับ
  • โอนกรรมสิทธิ์แล้วยอมเสียประวัติ วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยการคาดการณ์ล่วงหน้าสักนิด เลือกโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ต่อให้คนรู้จักหรือคนที่ไว่ใจได้ วิธีการนี้จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ได้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นคนในครอบครัว แม้จะไม่ได้เงินกลับมา แต่เมื่อคุณเสียประวัติจากการชำระไม่ทัน ล้มละลาย หรือติดเครดิตบูโร รถยนต์ที่เป็นช่องทางหารายได้ของคุณจะยังคงอยู่ แม้จะฟังดูเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่เลือกใช้ได้กับคนที่ไว้ใจได้จริงๆ เพราะกรรมสิทธิ์และผลประโยชน์เป็นเรื่องของเอกสารหลักฐานจริง หากโดนหักหลัง คุณอาจจะไม่เหลืออะไรเลย
  • จำนอง (ต้องจำนองกับธนาคารเดิม) การจำนองเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่วิธีที่ง่ายเลย คุณสามารถครอบครองรถยนต์เพื่อหารายได้ต่อ ในขณะที่ได้เงินก้อนมายืดระยะเวลาหนี้สินระยะสั้นที่ต้องชำระ แต่เพราะคุณยังผ่อนชำระไม่หมด คุณจำเป็นต้องต่อรองกับไฟแนนซ์หรือสถาบันทางการเงินที่คุณผ่อนรถยนต์ด้วย และคาดหวังให้เขาอ่อนข้อให้ (เป็นรูปแบบการขอสินเชื่อ ซึ่งมีเทคนิคในการต่อรอง)

หากคุณมาถึงจุดที่บทความนี้คือทางออกของคุณ เลือกทางออกที่ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ระยะยาว การหันหน้าหาเงินกู้นอกระบบหรือปล่อยไหลให้สุขภาพทางการเงินตายไปเป็นทางออกที่เลวร้ายที่สุด และผมขอแนะนำให้เริ่มวางแผนทางการเงินเสียใหม่ เมื่ออะไรดีขึ้น เริ่มลงทุนอย่างง่าย หาหลักประกันอย่างประกันภัยชีวิต สุขภาพหรือเรื่องที่ทำให้คุณเสียกำลังทรัพย์ได้ ขยันขันแข็งทำงานสุจริต เราเชื่อว่าสถานะทางการเงินคุณจะดีขึ้นแน่นอน

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.