เปิดตัวพร้อม ข้อมูล ราคา-ตารางผ่อน Ford Everest ไมเนอร์ชาร์จ 2018

0
3012

หลังจาก 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีข่าวหนาหูว่า ฟอร์ดประเทศไทยจะมีการเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่นด้วยกันคือ Ford Ranger Minorchange 2018 และ Ford Everest Minorchange 2018 ในโพสนี้เรามาพูดถึง ฟอร์ด เอเวอเรสท์ 2018 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ฟอรฺ์ดประเทศไทยได้เปิดตัว Ford Everest Minorchange พร้อมราคาในแต่ละรุ่นย่อยดังนี้

ราคา Ford Everest Minorchange 2018

  • รุ่น 2.0 Turbo Trend 4×2 A/T ราคา 1,299,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Turbo Titanium 4×2 A/T ราคา 1,439,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Turbo Titanium+ 4×2 A/T ราคา 1,599,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T ราคา 1,799,000 บาท

ตารางผ่อน Ford Everest Minorchange 2018

*หมายเหตุ : ตารางผ่อนดังกล่าวข้างต้นใช้เพื่อการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจาก ราคารถ อัตราดอกเบี้ย หรือโปรโมชั่นในแต่ละเดือน การคำนวณดังกล่าวข้างต้นใช้เพื่อการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้

จุดเด่นที่มาพร้อมกับ Ford Everest รุ่นนี้คือเครื่องยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์ใหม่ Diesel 2.0 Ecoblue 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode ปุ่ม + – ที่หัวเกียร์ ขับเคลื่อนด้วยระบบ 2 ล้อหลัง

และเครื่องยนต์อีก 1 บล็อคใหม่เช่นกันคือ เครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ที่ติดตั้งเฉพาะรุ่น Top ขนาด 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบคู่ ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเทอร์โบแรงดันสูง และ เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยระบบวาล์ว ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode ปุ่ม + – ที่หัวเกียร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full time พร้อมระบบ Terrain Management System

อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่นของ New Ford Everest 2018

รุ่น 2.0 Turbo Trend 4×2 AT

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์เลน แบบฮาโลเจน
  • เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 180 แรงม้า
  • ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode ปุ่ม + – ที่หัวเกียร์
  • ระบบดิสก์เบรกทั้งคู่หน้า และ คู่หลัง
  • พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPAS
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R17
  • บันไดข้าง
  • ราวหลังคา
  • มือเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
  • กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
  • ปุ่ม Start / Stop เครื่องเยนต์
  • กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบฝั่งคนขับ
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา
  • ช่องแอร์บนเพดาน พร้อมสวิตซ์ปรับระดับแรงลมแยกส่วน สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • เบาะหุ้มหนังสีดำ
  • เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับระบบได้ 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกอิสระ 60 : 40 สามารถปรับเอน และเลื่อนหน้าหรือถอยหลังได้
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกอิสระ 50 : 50
  • ช่องชาร์จไฟ 12 V
  • เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM CD MP3
  • หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 3 และ Wi-Fi
  • รอบรับระบบ Apply Car Play และ Andriod Auto
  • ระบบเชื่อมต่อ บลูทูธ
  • ระบบตัดเสียงรบกวน
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด
  • ลำโพง 9 ตำแหน่ง พร้อม Subwoofer – Amplifier
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก ระบบช่อยเสริมแรงเบรก
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
  • ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
  • ระบบลดความเสียงจากการพลิกคล่ำ
  • ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง
  • ถุงลมบิรภัย 7 ตำแหร่ง ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย และหัวเข่าคนขับ
  • เซนเซอร์กะระยะถอยเข้าจอด
  • ระบบกุญแจ Immobilizer
  • สัญญาณเตือนขโมย
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
ภาพประกอบภายในรุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium 4×4 AT

รุ่น 2.0 Turbo Titanium 4×2 AT (อุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 Turbo Trend 4×2 AT)

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ แบบ HID
  • ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
  • ไฟท้าย แบบ LED
  • ฝาท้ายเปิดและปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ระบบ Hands-Free Tailgate เปิด-ปิดฝาท้ายแค่แตะ
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารสีเงิน
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสดงอัตโนมัติ
  • เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ Cruise Control
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18

รุ่น 2.0 Turbo Titanium+ 4×2 AT (อุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 Turbo Titanium 4×2 AT)

  • กระจกมองข้างแบบโครเมียม พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
  • มือเปิดประตูภายนอกโครเมียม
  • ผ้าบุหลังคาภายในห้องโดยสารสีดำ
  • หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิดและปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ไฟส่องสว่างด้านข้างตัวรถ
  • ชุดชายบันไดข้างสแตนเลส
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เหมือนของคนขับ
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 พับด้วยระบบไฟฟ้า
  • วัสดุตกแต่งห้องโดยสารสีเทาเงา
  • ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Light ปรับได้
  • สวิตซ์ปรับแรงลม และอุณหภูมิ พร้อมตำแหน่งเปล่าลม สำหรับช่องแอร์ของผู้โดยสารตอนหลัง
  • ช่องชาร์จไฟ AC 230V
  • ระบบแผนที่นำทาง Navigator
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ โดยสารตรวจจับรถ และคนเดือนถนน
  • ระบบควบคมความเร็วแบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางจราจร
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า
  • ระบบเปิดไฟสูงแบบอัตโนมัติ
  • ระบบแจ้งอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า
  • ระบบตรวจสอบลมยาง
  • ระบบตรวจจับรถในจุดอับสายตา
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า
  • ระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอดรถ
  • ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20
ภาพประกอบภายในรุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium 4×4 AT

รุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 AT (อุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 Turbo Titanium+ 4×2 AT)

  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
  • ขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อ Full Time 4WD
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงจากทางลาดชัน HDC
  • ระบบเฟืองท้าย Electronic Rear Differential Lock

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.headlightmag.com

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.