หูฟังที่ดีที่สุดสำหรับนักดนตรีและนักตัดต่อเสียง

    0
    0

หูฟังหรือ Headphone เป็นอุปกรณ์พกพาที่สำคัญอย่างหนึ่งในปัจจุบัน เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายและสร้างความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้ที่กำลังฟังเพลง การเล่นเกมคาสิโน ออนไลน์ หรือ การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องมีการฟังเสียงในที่สาธารณะเพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น

นอกจากการใช้งานแบบเป็นส่วนตัวแล้ว หูฟังยังเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งสำหรับนักร้อง นักดนตรี รวมทั้งผู้ที่เป็นโปรดิวเซอร์เพลง เพราะหูฟังที่ดีนั้นจะสร้างความแตกต่างในการเข้าถึงเพลงมากกว่าลำโพงที่ดีที่สุดจะให้ได้ โดยในตอนนี้มีหูฟังหลายแบรนด์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่สร้างสรรค์งานเพลง นักร้อง และนักดนตรี บทความของเราได้รวบรวมคอลเลคชันที่น่าสนใจและมีหลากหลายราคามาฝากกัน

หูฟังคุณภาพดีสำหรับนักดนตรีและนักตัดต่อเสียง

Focal Listen Professional

หูฟังนี้เหมาะสำหรับโปรที่ทำงานในห้องสตูดิโอและบุคคลทั่วไป มีจุดเด่นอยู่ที่ความแข็งแรงและเข้ากับรูปหน้าได้อย่างกระชับ รูปร่างสวยงามและให้เสียงเบสที่เป็นกลางและหนักแน่นอย่างน่าทึ่งพร้อมการขยายเสียงที่หลากหลาย นำเสนอเสียงต่ำที่มั่นคง เสียงกลางที่เต็ม และเสียงสูงที่ฟังได้แบบราบรื่นหู หูฟังบรรจุในเคสที่สวยงามและแข็งแรง หูฟังนี้เป็นหูฟังแบบครบวงจรที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้

  • ประเภท : หูฟังแบบครอบปิด
  • ความถี่ตอบสนอง : 5Hz - 22kHz
  • ประเภทของไดรเวอร์ : Mylar/Titanium, 40mm
  • การเชื่อมต่อ : เป็นหูฟังแบบมีสาย 
  • จุดเด่น : ใส่สบายและมีเสียงต่ำที่มั่นคง รูปลักษณ์สวยงาม
  • จุดด้อย : ใส่นานแล้วอาจจะมีเหงื่อไหล

Beyerdynamic DT 700 PRO X

เป็นหูฟังที่ได้รับการอัพเกรดมาจากรุ่น DY 770 Pro X มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ พร้อมแผ่นรองหูฟังที่นุ่มขึ้นและมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นด้วยการออกแบบตัวสัญญาณ Stellar.45 ใหม่ที่เร็วต่อการตอบสนอง ช่วยส่งเสริมให้การตอบสนองโดยละเอียดและเสียงที่เชื่อถือได้แบบไม่เพี้ยนแม้ว่าจะมีระดับความดันเสียงสูง หูฟังนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในสตูดิโอและการใช้งานในชีวิตประจำวัน หูฟังนี้เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการยกระดับจากหูฟังรุ่น 770 Pro

  • ประเภท : หูฟังแบบครอบปิด
  • ความถี่ตอบสนอง : 5Hz - 40kHz
  • ประเภทของไดรเวอร์ : Dynamic STELLAR.45, 50mm
  • การเชื่อมต่อ : เป็นหูฟังแบบมีสาย 
  • จุดเด่น : ตัดเสียงภายนอกได้ดี เสียงดี และใส่สบายมาก
  • จุดด้อย : ราคาแพงกว่า 770 Pro

Sony MDR-7506

หูฟัง MDR ของ Sony เป็นที่นิยมมาเป็นเวลานานหลายปีและถือว่าเป็นหูฟังสำหรับสตูดิโอที่ดีที่สุดอันหนึ่ง หูฟังนี้ใช้สำหรับการบันทึกรายการและการออกอากาศแบบสดทั่วโลก MDR-7506 เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของความสะดวกสบาย การนำไปใช้งานได้จริง และความคุ้มค่า 

จากประสบการณ์ของเรา หูฟังนี้สวมใส่สบายถึงแม้ว่าจะใส่เป็นเวลานาน และได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงหากมีความผิดปกติในการบันทึกเสียง หูฟังมีคุณภาพเทียบเท่ากับชนิดอื่นที่อาจจะมีราคามากกว่า 2 เท่า คุณจะได้ฟังเสียงที่หนักแน่นและชัดเจนตลอดช่วงสเปกตรัม โดยมีการบูสต์ปานกลาง

  • ประเภท : หูฟังแบบครอบปิด
  • ความถี่ตอบสนอง : 10Hz - 20kHz
  • ประเภทของไดรเวอร์ : Neodymium, 40mm
  • การเชื่อมต่อ : เป็นหูฟังแบบมีสาย 
  • จุดเด่น : ทน ใส่ได้สบายแม้จะใส่นาน รวมทั้งมีเสียงที่ดี
  • จุดด้อย : สายเชื่อมต่อน้ำหนักเยอะ

Sennheiser HD-206

หากคุณกำลังมองหาหูฟังที่ราคาไม่สูงมากสำหรับการบันทึกเสียงและฟังในสตูดิโอ Sennheiser HD-206 คือคำตอบที่ดีที่สุดของคุณ เชื่อมั่นได้จากยี่ห้อ Sennheiser ที่เป็นที่นิยมมาเป็นเวลานาน 

หูฟังนี้มีคุณสมบัติที่เกินเลยราคาที่ย่อมเยาว์เป็นอย่างมาก การตอบสนองของเบสนั้นสมบูรณ์และคมชัด มีรายละเอียดมากมายที่สามารพบได้ในเสียงกลางและเสียงสูง ทำให้เป็นหูฟังที่เหมาะกับแอมป์กีตาร์ที่ดีที่สุด 

หูฟังนี้มี Earpad ที่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ว่าจะอยู่ในสตูดิโอหรือขณะเดินทาง 

  • ประเภท : หูฟังแบบครอบปิด
  • ความถี่ตอบสนอง : 21Hz - 18kHz
  • ประเภทของไดรเวอร์ : Dynamic, closed
  • การเชื่อมต่อ : เป็นหูฟังแบบมีสาย 
  • จุดเด่น : ดีสำหรับแทรกกิ้ง ทนและมีน้ำหนักเบา ราคาย่อมเยาว์
  • จุดด้อย : สายเชื่อมต่อมีความยาวมาก 

Sennheiser HD-25

อีกหนึ่งหูฟังที่เป็นที่นิยมในสตูดิโอและมีใช้มาเป็นเวลานาน หูฟัง Sennheiser HD-25 ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในด้านความสามารถในการจัดการระดับแรงดันเสียงที่สูงและให้การสร้างเสียงที่ยอดเยี่ยม หูฟังนี้มีความทนทานให้เสียงที่หนักแน่นและแม่นยำโดยมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงมาก 

หูฟังนี้มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ แบบ Light , Standard และ Plus

  • ประเภท : แบบปิดหู
  • ความถี่ตอบสนอง : 16Hz - 22kHz
  • ประเภทของไดรเวอร์ : Dynamic, closed
  • การเชื่อมต่อ : เป็นหูฟังแบบมีสาย 
  • จุดเด่น : น้ำหนักเบาและมีความทนทาน
  • จุดด้อย : earpads ไม่ดีนัก

หูฟังที่ใช้ในสตูดิโอแตกต่างอย่างไรกับหูฟังที่ใช้ส่วนตัว

หูฟังส่วนใหญ่ที่ผลิตขึ้นเพื่อการฟังหรือเล่นเกมในชีวิตประจำวันทั่วไปจะมีการเพิ่มพลังเสียงโดยธรรมชาติ มีการเพิ่มช่วงความถี่เพื่อยกระดับประสบการณ์การฟัง ซึ่งมักจะทำให้เสียงดีขึ้นด้วยการเพิ่มพลังเสียงจากการปรับระดับเสียง รวมทั้งความถี่เสียงทุ้มและเสียงแหลม ในขณะที่หูฟังแบบสตูดิโอจะได้รับการออกแบบให้แสดงการตอบสนองความถี่ที่แบนราบกว่าหูฟังแบบทั่วไปส่วนใหญ่ เพื่อให้การฟังในสตูดิโอนั้นมีเสียงที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.