อีกหนึ่งไฮไลท์ในงาน Thailand Motor Expo 2017 จากบูธโตโยต้าคือการเปิดตัว New Toyota C-HR รถยนต์นั่งส่วนบุคคลสไตล์คลอสโอเวอร์ มีจำหน่ายด่วยกัน 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่นที่มีระบบไฮบริด 2 รุ่น และรุ่นธรรมดา 2 รุ่น ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1 ล้านบาท
Toyota C-HR คือยนตรกรรมแห่งอนาคตที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอกย้ำ แนวคิด Ever Better Car จากการดีไซน์รูปลักษณ์ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก รูปทรงเหลี่ยมมุมอันเป็นเอกลักษณ์ของเพชร ผสมผสานกับเทคโนโลยีเหนือชั้น เพื่อให้ได้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และสมบูรณ์แบบ C-HR จึงเป็นรถที่สร้างประสบการณ์เหนือชั้นทุุกครั้งเมื่อขับขี่ และโดดเด่นกว่าใครในทุกเส้นทาง
ระบบไฮบริิดเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ กับการพัฒนาให้แบตเตอรี่ไฮบริดมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น พร้อมรับประกัยแบตเตอรี่นาน 10 ปี และ รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ด้วยการพัฒนาระบบไฮบริดใหม่ C-HR มีความโดดเด่นในเรื่องอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร มีการพัฒนาระบบระบายความร้อนในแบตเตอรี่ไฮบริดใหม่ ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ภายนอกได้รับการออกแบบให้มีความสปอร์ต ดูโฉบเฉี่ยวและคล่องตัว กระจังหน้าสุดเท่แนวยาวรับกับโคมไฟหน้าที่ดีไซน์มาโฉบเฉี่ยวได้อย่างลงตัว มีช่องรับลมซ้าย-ขวาขนาดใหญ่ใกล้กับไฟตัดหมอกหน้า กันชนด้านล่างสีดำพร้อมตะแกรงขนาดใหญ่ ไฟท้ายแบบ LED แบบตัว C พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ในตำแหน่งกันชนด้านล่าง บ่งบอกด้วยสัญลักษณ์ Hybrid ที่ฝากระโปรงท้าย (เฉพาะรุ่น Hybrid) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วดีไซน์ใหม่
ภายในออกแบบผสมผสานความโมเดิล ความสปอร์ด และความหรูหราได้อย่างลงตัว เส้นสายคอนโซยที่โค้งแปลกตาให้ความแปลกใหม่ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่กลางคอนโซล รับคำสังได้อย่างสะดวกด้วยปุ่มควบควบคุมการทำงานบนหน้าจอผ่านพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ภายในตกแต่งสีทูโทนเป็นสีน้ำตาลเข็ม-สีดำ
เครื่องยนต์ ใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร (1,798 ซีซี) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด (สำหรับรุ่น Hybrid) ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ
อธิบายการทำงานของระบบไฮบริดใน C-HR
ขณะออกตัว
- ระบบ Full Hybrid ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว โดยใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
ขณะขับขี่ปกติด้วยความเร็วคงที่
- เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันสูงสุด
- พลังงานส่วนเกินจะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วนำไปสะสมในแบตเตอรี่
ขณะเร่งความเร็ว
- เครื่องยนต์และระบบ Full Hybrid พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 2 ตัว ผสานการทำงานร่วมกันอย่างเต็มพลัง
- แบตเตอรี่ส่งพลังงานไฟฟ้าเสริมเต็มกำลัง เพื่ออัตราเร่งสูงสุด
ขณะลดความเร็วและเบรก
- เครื่องยนต์หยุดทำงาน
- มอเตอร์ไฟฟ้าจะแปลงพลังงานจากการเคลื่อนที่เป็นพลังงานไฟฟ้านำไปเก็บสะสมในแบตเตอรี่ไฮบริด
ขณะจอด
- เครื่องยนต์หยุดทำงาน
- ระบบ Full Hybrid ช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานตามปกติ โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไฮบริดเพียงอย่างเดียว
- เมื่อแตะเบรกเพื่อจอด มอเตอร์ไฟฟ้า จะช่วยประคองให้รถหยุดอย่างนุ่มนวล
ระบบความปอลดภัยมาตรฐานระดับโลก 4 ฟังก์ชั่น
- Pre-Collision System ระบบความปลอภัยก่อนการชน ใช้เรดาร์บริเวณหน้ารถตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหน้า และทำการส่งสัญญาณเตือน เพื่อลดโอกาสและความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- Lane Departure Alert with steering assist ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ เมื่อรถคุณขับออกนอกช่องทาง โดยไม่เปิดไฟเลี้ยวหรือเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอ MID และพวงมาลัยจะทำการหน่วงกลับอัตโนมัติ
- Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า และเร่งความเร็วกลับไปสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า เพิ่มความสบายเมื่อขับขี่ระยะไกล
- Automatic High Beams ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ เมื่อมีรถสวนมาจะปรับเป็นไฟต่ำ พาไม่มีรถก็จะเปิดเป็นไฟสูง ทำให้ทรรศนะวิสัยในการมองไกลขึ้น
ข้อมูลเบื้องต้นในแต่ละรุ่นย่อยของ โตโยต้า ซี-เอชอาร์
ราคา โตโยต้า ซี-เอชอาร์
มีสีให้เลือกด้วยกัน 6 สีดังนี้ (3 สีแรกมีเฉพาะรุ่น Hybrid)
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
- www.toyota.co.th
- www.sanook.com
- www.9carthai.com
- www.headlightmag.com