หลังจากที่มีข่าวลือมานาน Isuzu ก็ได้กำหนดเปิดตัว New Isuzu D-Max Blue Power 2017 แล้วในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 นี้ และตัวรถเองก็ได้ถูกนำมาจอดไว้ในแต่ละโชว์รูมของ Isuzu ทั่วประเทศแล้ว
กระแสก่อนหน้านี้ที่คิดว่าอีซูซุจะใช้เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.4 ลิตรเพื่อมาแทนเครื่อง 3.0 ลิตร ถือว่าผิดคาด เพราะอีซูซุยังคงเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร บลูพาวเวอร์ และ 3.0 ลิตร บลูพาวเวอร์เหมือนเดิม แต่จะมีการปรับดีไซน์ตัวถังส่วนหน้าบางชิ้นส่วน และภายในอีกเล็กน้อย
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงใน New Isuzu D-Max Blue Power 2017 คือ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-LED ครั้งแรกในวงการถกระบะ ให้ความสว่างมากกว่าเดิมถึง 63% และมีพื้นที่ความสว่างมากยิ่งขึ้น ใช้พลังงานน้อย พร้อม Multifuction Daylight ให้อารมณ์สปอร์ต ที่ให้ความสว่างชัดในเวลากลางวัน และสามารถทำหน้าที่เป็นไฟหรี่ในเวลากลางคืนได้ด้วย นอกจากที่ยังเพิ่มความสามารถในการปรับระดับสูง-ต่ำ ได้ถึง 4 ระดับ
กระจังหน้าแบบใหม่ในรุ่น V-Cross MAX เป็นแบบใหม่ เท่ ดุดัน โทนสีเทาดำ พร้อมกรอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่สีเทาดำ มองแล้วโดดเด่น ดุดัน แต่รุ่นอื่น ตรงกรอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่นี้จะเป็นสีโครเมียม นอกจากนี้ยังมีการออกแบบลายล้ออัลลอบใหม่ให้กับดีแม็กซ์รุ่นนี้ เป็นแบบทูโทน ขนาด 18 นิ้ว เสริมความสะดวกด้วยบันไดข้างแบบใหม่แบบชิ้นเดียว
ภายในของรุ่น V-Cross Max ได้มีการใส่สีใหม่ให้กับเบาะนั่ง เป็นโทนสีน้ำตาลเทา เดินด้ายสีส้ม เพื่อเพิ่มความหรูหราสไตล์วีครอส เบาะเป็นแบบกึ่งหนังแท้ ตรงกลางแผ่นหลังสัมผัสมีสัญลักษณ์ตัวหนังสือ V-Cross นอกจากนี้ยังเพิ่มความหรูหราอีกระดับด้วยชุดโครเมียมช่องแอร์ และสัญลักษณ์ V-Cross ที่คอนโซลหน้า และติดตั้ง Soft Touch ด้านข้างประตู สีน้ำตาลอ่อน
ในส่วนของรุ่น Hi-Lander ก็ได้ปรับใหม่เช่นกัน เน้นความพรีเมี่ยมด้วยกระจังหน้าโครเมียม กรอบไฟตัดหมอกแบบใหม่เช่นเดียวกับรุ่น V-Coss Max แต่เปลี่ยนจากสีเทาดำเป็นโครเมียม ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว และ บันไดข้างแบบใหม่แบบชิ้นเดียว เช่นกัน
ภายในของรุ่น Hi-Lander เองก็มีการปรับสีของเบาะเช่นกันแต่ปรับเป็นสีน้ำตาลทั้งชิ้นแบบกึ่งหนังแท้ ที่พักแขนด้านข้างประตูเองก็ถูกทำเป็นสีน้ำตาลเช่นกันกับเบาะ ทำให้มองแล้วดูกลมกลืนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังแสดงความเป็นตัวตนด้วยสัญลักษณ์ D-Max ที่คอนโซนหน้า ฝาปิดคอนโซลกลาง คิ้วคอนโซลเหนือหน้าปัด
ส่วนของเครื่องยนต์นั้นยังคงมีให้เลือก 2 ขนาดเช่นเดิมคือ เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร บลูพาวเวอร์ กำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต และ ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift
และอีกหนึ่งทางเลือกคือเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบแปลผัน กำลัง 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต และ ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
และดูเหมือนว่าจะมีสีใหม่เพิ่มเข้ามา 3 สี จากเดิม 5 สี รวมเป็น 8 สี และ 3 สีที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ สีแดงเอทนา (Etna Red) สีเงินเซอร์แมท (Zermatt Silver) และสีน้ำเงินโพลีนีเชียน (Polynesian Blue)
ส่วนเรื่องราคายังไม่มีข้อมูลที่เป็นทางการออกมา แต่เห็นมีสื่อบางแห่งบอกว่าจะเพิ่มราคา 3,000 – 30,000 บาท สำหรับงานเปิดตัวจะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 นี้ ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพค เมืองทองธานี เวลา 11.00 – 19.00 น.