หลังจากที่มีข่าวลือของ All-New Mitsubishi Xpander ก่อนหน้านี้ที่ว่าจะเปิดตัวในไทยก็ได้เงียบไปพักใหญ่ เพราะแผนการเปิดตัวจริงๆน่าจะอยู่ที่ช่วงต้นไปหน้าก่อนสงกรานต์ และมีข่าวเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นอื่นที่จะเปิดตัวก่อนเช่น All-New MG ZS, All-New Mazda CX-5, New Isuzu D-Max รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี และ New Toyota Hilux Revo เป็นต้น
แต่ล่าสุดก็ได้มีภาพหลุดการวิ่งทดสอบครั้งแรกบนถนนของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ในประเทศไทย โดยตัวรถถูกหุ้มด้วยสติ๊กเกอร์ทั้งคันเผยให้เห็นแค่ลวดลายของล้ออัลลอย ป้ายที่เบียนที่ขึ้นต้นด้วย TC หรือย่อมาจาก Test Car และกระจังหน้าแบบ 3 ชั้น ส่วนท้ายรถได้เห็นส่วนของการดีไซน์ไฟท้ายแบบตัว L แต่แนวไม่ยาวเท่ารุ่นพี่ Pajero ด้านบนเหนือกระจังหลังมีไฟเบรกดวงที่ 3 และด้านบนเป็นเสาอากาศแบบธรรมดา
Mitsubishi Xpander เป็นรถประเภท MiniMPV มีเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง มีการออกแบบผสมผสานระหว่าง MPV และ SUV การดีไซน์ภายนอกดูบึกบึนแข็งแกร่งสไตล์ MPV ฟังก์ชั่นการใช้งานได้เต็มรูปแบบๆ SUV กระจังหน้าดีไซน์ได้ล้ำสมัยกว่าใครเพื่อน ส่วนชอบหรือไม่ชอบแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
มิติตัวถังเมื่อเทียบกับคู่แข่งใน Segment เดียวกัน (ยาว x กว้าง x สูง)
- Mitsubishi Xpander : 4,475 x 1,750 x 1,700 มิลลิเมตร
- Honda BR-V : 4,455 x 1,735 x 1,650 มิลลิเมตร
- Honda Mobilio : 4,398 x 1,683 x 1,603 มิลลิเมตร
- Toyota Sienta : 4,235 x 1,695 x 1,695 มิลลิเมตร
- Suzuki Ertiga : 4,265 x 1,695 x 1,685 มิลลิเมตร
ดูแล้วจะมีตัวถังที่ใหญ่กว่าคู่แข่งทุกรุ่น
เครื่องยนต์ ใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
รายละเอียดออฟชั่นและเทคโนโนโลยีต่างใน Mitsubishi Xpander (เวอร์ชั่นที่ขายในอินโดนีเซีย)
— ภายนอก
- ด้านบนจะเป็นตำแหน่งของไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และ ไฟหรี่
- ช่วงกลางกระจังหน้าไปไฟหน้า
- ตำแหน่งล่างสุดเป็นไฟตัดหมอก
- ไฟท้าย LED ทรง L-Shape
- ไฟเบรกดวงที่ 3
- มือเปิดประตูด้านนอกโครเมียม
- กระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า
— ภายในห้องโดยสาร
- มี 2 สีให้เลือกคือ สีเบจ และสีดำ
- เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
- จอแสดงผลเครื่องเสียงแบบสัมผัส
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ระบบการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
— ระบบความปลอดภัย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบช่วยออกตัวบบนทางลาดชัน HSA
- ระบบควบคุมการทรงตัว ASC
- ระบบไฟแสดงไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกระทันหัน
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ และ ผู้โดยสารด้านหน้า
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ Immobilizer
การเข้ามาทำการตลาดในไทยอาจมีด้วยกัน 2-3 รุ่นย่อว ราคาน่าจะอยูู่ราวๆ 690,000 — 769,00 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก www.headlightmag.com