หลังจากที่ร้อนแล้งแดดเปรี้ยงปานหัวแยกกันมาหลายเดือน ในที่สุด 2-3 วันที่ผ่านมาพระพิรุณก็โปรยสายฝน (แต่บางที่ก็เป็นห่าฝน) ลงมาแล้ว หวังว่าเพื่อนๆ ชาว Carrecent คงจะได้ชุ่มฉ่ำเย็นใจกันบ้างแล้วนะครับ หรือจะกลายเป็นหงุดหงิดหนักกว่าเดิม เพราะฝนตกรถติด แถมยังเป็นช่วงเปิดเทอมซะอีกแน่ะ 555
ฝนในช่วงนี้เป็นแค่ อิทธิพลจากมรสุมนะครับ แต่ก็มีการพยากรณ์กันไว้แล้ว ว่าหลังจากมรสุมลูกนี้ผ่านพ้นไป หน้าฝนที่หลายคนรอคอยก็จะเดินทางมาเยือนเราในที่สุด ซึ่งสิ่งที่มาพร้อมกับหน้าฝน นอกจากอากาศที่เย็นชื้น จนเราต้องอย่าลืมที่จะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายกันแล้ว รถเองก็ต้องการการดูแลยามหน้าฝนเช่นเดียวกันนะครับ ว่าแล้วเราก็ลองมาดูวิธีการเตรียมรถ รวมถึงการเตรียมตัวของเราเองให้พร้อมรับกับการขับขี่ในหน้าฝนกันดีกว่า ทั้งเพื่อป้องกันความเสื่อมหรืออาการชำรุดของรถคันโปรด และเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยครับ
1. ถึงเวลาก้มดูยาง สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้ชีวิตในเมืองเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ออกต่างจังหวัด หน้าร้อนแล้งที่ผ่านมาอาจทำให้หลายๆ คนชะล่าใจ ลืมสำรวจตรวจตรายางกันไปบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อถึงคราวที่หน้าฝนมาเยือน ก็ถึงเวลาที่ต้องสำรวจตรวจตราความพร้อมของยางกันแล้วครับ ว่ายังสมบูรณ์ดีอยู่ไหม โดยเฉพาะดอกยางยังมีพร้อมสำหรับการรีดน้ำหรือไม่ ต้องดูกันให้ดีนะครับ เพราะยางที่สึกจนไร้ดอก เสี่ยงต่อการสูญเสียการควบคุมของรถยามที่ต้องลุยน้ำ และหากขับรถด้วยความเร็วลุยแอ่งน้ำ ก็อาจเกิดอาการเหินน้ำ ซึ่งนำไปสู่อุบัติเหตุได้
2. ที่ปัดน้ำฝนยังดีอยู่ไหม ที่ปัดน้ำฝนถือเป็นอุปกรณ์หนึ่งของรถที่เพื่อนๆ หลายคนน่าจะหลงลืมไปเสียสนิทเลยนะครับในยามหน้าร้อน เพราะแทบไม่ต้องเปิดใช้ แต่ครานี้แหละครับเราต้องได้ใช้แน่ๆ แต่ปัญหาก็คือ ยางปัดน้ำฝนที่ผ่านฤดูร้อนมาอย่างโชกโชนนั้นยังดีอยู่ไหมสำหรับการปัดรีดน้ำ ต้องสำรวจและทดลองฉีดน้ำและปัดกระจกดูด้วยนะครับ เพราะการที่ต้องเจอความร้อนอย่างหนักมายาวนาน อาจทำให้ยางเสื่อมสภาพ และไม่รีดน้ำ ซึ่งถ้าหากใช้ตอนที่ฝนตก อาจทำให้ทัศนวิสัยของเพื่อนๆ เสียไป และนำไปสู่อุบัติเหตุได้
3. เบรกยังเบรกดีอยู่ไหม การขับขี่บนพื้นที่ชื้นแฉะยามหน้าฝน จำเป็นต้องมีระบบเบรกที่ทำงานได้ดีนะครับ เพราะต้องอาศัยแรงเบรกมากกว่าการขับบนพื้นแห้ง ซึ่งส่วนนี้เพื่อนๆ น่าจะคุ้นชินกับเบรกของรถกันอยู่แล้ว สำหรับคนที่เบรกดีอยู่แล้วก็คงวางใจได้ เพียงเช็คน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่กำหนด แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่รู้สึกว่าเบรกไม่ค่อยดีอยู่ก่อนแล้ว ก็คงถึงเวลาที่จะต้องนำรถเข้าเช็คเบรกกันแล้วละครับ
4. ทวน ความจำจุดน้ำท่วม เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนต้องมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมในเส้นทางที่ใช้เมมโมรี่ไว้ในสมองแน่ๆ ใช่ไหมครับ ถึงเวลาดึงเอาความจำนั้นกลับมาแล้ว โดยเฉพาะรถเก๋งที่ท้องต่ำ การต้องขับลุยจุดที่มีน้ำท่วมขังในระดับสูงย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่าพิสมัย แน่ๆ ดังนั้นถ้าฝนตกหนัก พยายามหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงที่อาจเกิดน้ำท่วมหนักนะครับ เลยลืมและอย่าลุยไปเลย ได้ไม่คุ้มเสียแน่ๆ
5.ขับรถอย่าง ปลอดภัย สุดท้ายท้ายสุดสำหรับการขับรถในหน้าฝน ก็คือ การขับขี่อย่างระมัดระวัง ไม่ใช่ความเร็วมากเกินไป และเคารพวินัยจราจรนะครับ เพื่อสวัสดิภาพในการเดินทางของเพื่อนๆ รวมถึงเพื่อนร่วมท้องถนนด้วยนะครับ