มือใหม่หัดขับทั้งหลาย หากคุณคิดแต่จะขับอย่างเดียวแต่ไม่ดูแลรถยนต์สุดรักสุดหวงเลย คงจะไม่ดีแน่ เพราะฉะนั้น วันนี้ rabbit finance จึงมีเคล็ดลับรถยนต์ที่คุณควรรู้มาฝาก เพื่อให้เป็นแนวทางในการดูแลรักษารถยนต์ให้คงอยู่กับคุณไปอีกนานแสนนาน
6 เคล็ดลับ รถยนต์ ที่มือใหม่หัดขับ ต้องรู้ !
-
เช็คระบบเบรก
การเช็คระบบเบรกเป็นสิ่งที่คุณควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของคุณ และเพื่อนร่วมทาง ซึ่งวิธีการตรวจสอบ ก็คือ
- มีคราบน้ำมันรั่วซึมหรือไม่
- จานเบรกปกติหรือเปล่า
- ความหนาของผ้าเบรกยังใช้ได้ดีอยู่ไหม
-
เช็คลมยาง
คุณควรเช็คลมยางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือทุกครั้งก่อนออกเดินทาง และเพื่อไม่ให้ยางเกิดการสึกหรอมากจนเกินไป คุณควรสลับล้อทุกๆ 10,000 กม. หรือตามที่คู่มือแนะนำ หรือตามคำแนะนำของศูนย์บริการที่มีรายชื่อกับบริษัทประกันที่เราได้ทำการต่อประกันรถเอาไว้ ซึ่งจะแนะนำได้ว่าคุณควรจะสลับล้อเมื่อใด
-
เปลี่ยนสายพาน
คุณควรตรวจเช็คสายพานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อถึงเวลาตามที่คู่มือแนะนำ หรือศูนย์บริการที่มีรายชื่อกับบริษัทประกันที่เราได้ทำการต่อประกันรถแนะนำ ซึ่งหากสายพานไม่ดี หรือเกิดการชำรุด ก็จะส่งผลให้เครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้ และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แน่นอนว่ามันไม่ดีต่อทั้งตัวรถ และตัวคุณเลยล่ะค่ะ
-
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
คุณควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 4-6 เดือน หรือทุกๆ 8,000-10,000 กม. เพื่อเป็นการรักษาเครื่องยนต์ให้ใช้ได้ยาวนาน
-
ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝน
ที่ปัดน้ำฝน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรตรวจสอบไม่แพ้ข้ออื่นๆ ซึ่งการตรวจสอบนั้นจะสังเกตได้จากการเปิดใช้งาน ซึ่งหากมีเสียงดังมากกว่าปกติ ทิ้งรอยครูดไว้ที่กระจก หรือปัดคราบออกไม่หมด อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแล้วล่ะ
-
บำรุงรักษารถยนต์อย่างถูกวิธี
อย่าเห็นแก่ของถูก หรือเอาแต่สะดวกนะคะ เพราะในบางครั้งการไปซ่อมอู่เล็กๆ ก็อาจทำให้รถของคุณเกิดปัญหาขึ้นได้ จากการซ่อมไม่ถูกวิธี และไม่ได้มาตราฐาน ดังนั้น คุณจึงควรให้ศูนย์บริการที่มีรายชื่ออยู่ในบริษัทประกันที่เราได้ดำเนินการต่อประกันรถ มาซ่อม หรือดูแลรักษาจะดีกว่า เพราะศูนย์บริการนี้จะดำเนินการบำรุงรักษารถยนต์ของคุณได้อย่างถูกวิธีมากกว่าอู่ซ่อมรถเล็กๆ ทั่วไป ถึงแม้จะแพงกว่า แต่ก็ได้ความสบายใจมากกว่านะคะและที่สำคัญ หากคุณมีรถยนต์เป็นของตัวเองแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไว้จะดีกว่า เพราะประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะครอบคลุม และดูแลในทุกๆ เหตุการณ์ และทุกๆ ปัญหา รับรองเลยว่า คุณจะมีคนมาคอยช่วยซัพพอร์ตคุณอย่างแน่นอน (ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด)