เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆขึ้นมาในวงการยานยนต์มันจะเป็นเรื่องดีเสมอ แต่เมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆที่นำมาใช้จริงเกิดปัญหาค่าดูแลและบำรุงรักษาก็เยอะเหมือนกัน เหมือนกับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหรือที่เรารู้จักและคุ้นหูกันดีก็คือ ระบบไฮบริด(Hybrid)ที่นำมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยในการขับเคลื่อนรถยนต์ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางแถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
เรามารู้จักรถยนต์ไฮบริคและไฟฟ้า (EV)ภายใน 10 นาที
แต่ในความสะดวกสบายเราก็คงได้ยินในสิ่งที่ไม่ดีเหมือนกันคือ การบำรุงรักษาและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งเมื่อแบตเตอรี่มีปัญหาหรือเสื่อมค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแต่ละครั้งก็เหยียบหลักแสนบาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานกังวลในค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ก็เหมือนกับหนุ่มอเมริกันคนนี้ ที่ได้เจอปัญหาเกี่ยวกับระบบจ่ายไฟให้กับระบบไฮบริดจนเกือบต้องเสียเงินแสน
เรื่องราวของหนุ่มมะกันรายได้ได้ถูกเผยแพร่จากเว็บไซต์คาร์สกูปส์ ที่ได้เล่าเเรื่องราวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต นามว่า scoodidabop ซึ่งได้เล่าผ่านเว็บบล็อก imgur.com ซึ่งหนุ่มคนนี้ได้เล่าเรื่องราวต่างๆนั้นเกิดขึ้นจากการที่ไปซื้อรถยนต์โตโยต้า แคมรี่ ไฮบริด (Toyota Camry Hybrid) มือสอง ปี 2010 ซึ่งในตอนแรกที่เริ่มใช้งานนั้นก็ไม่พบปัญหาอะไรให้กวนใจ แต่เมื่อผ่านไปสองอาทิตย์ หน้าปัดแสดงสถานะในคอนโซลหน้ารถก็แสดงถึงบ้างสิ่งบ้างอย่างที่เป็นปัญหาเมื่อหนุ่มมะกันคนนี้ได้นำรถยนต์เข้าศูนย์ ทางศูนย์ได้ระบุปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ ซึ่งทางศูนย์เองได้แจ้งราคาค่าใช้จ่ายออกมา เมื่อหนุ่มมะกันคนนี้เห็นก็เกือบทรุดเพราะราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในครั้งนี้สูงเทียบเท่ากับราคาครึ่งหนึ่งของตัวรถยนต์เลยทีเดียว ทางศูนย์ตีราคาไว้ประมาณ4,456 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 145,000 บาท
คลิปHonda Sport Hybrid i-MMD
จนท้ายที่สุดหนุ่มมะกันคนนี้ได้นำรถยนต์กลับมาบ้านและตัดสินใจถอดแบตเตอรี่ไฮบริดเพื่อมาซ่อมเอง จากการตรวจสอบทุกชิ้นส่วนก็ปกติดี มีเพียงชิ้นส่วนเดียวเท่านั้นที่น่าจะเป็นปัญหาก็คือขั้วทองแดงที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่กับระบบต่าง ๆ เกิดสนิมขึ้นซึ่งสนิมที่เกิดขึ้นนั้นจะทำให้การส่งผ่านไฟฟ้านั้นไม่คล่องตัวและไม่เสถียร หนุ่มมะกันคนนี้ได้นำขั้วแบตเตอรี่ที่มีสนิมเกาะอยู่จนแน่นหนา ไปแช่ในน้ำส้มสายชูเป็นเวลา 34 ชั่วโมง ก่อนจะนำมาล้างด้วยน้ำเปล่ากับเบกกิ้งโซดา หลังล้างขั้วแบตเป็นที่เรียบร้อยแล้วนำไปประกอบเข้ากับแบตเตอรี่ ผลปรากฏว่าอาการที่เกิดขึ้นและไฟสถานะที่แดงขึ้นมาหายไป ทำให้หนุ่มคนนี้ไม่ต้องเสียเงินแสน โดยค่าใช้จ่ายในการล้างสนิมครั้งนี้อยู่ที่ 10 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 320 บาทซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับเงินแสนที่ทางศูนย์ได้เสนอราคามา
